เต็มอิ่มกับฤดูหนาว! เทศกาลโคมไฟหิมะและชมปีศาจน้ำแข็ง (จุเฮียว)

เวลาที่จำเป็น
2 คืน 3 วัน
วิธีเดินทางหลัก
รถบัส,รถไฟ

ยามากาตะในฤดูหนาวเต็มไปด้วยจุดน่าชม! ขอแนะนำโปรแกรมที่จะได้เต็มอิ่มกับยามากาตะในฤดูหนาว เช่น ปีศาจน้ำแข็งแห่งซาโอและ "เทศกาลโคมไฟหิมะอุเอซุกิ" ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำฤดูหนาวของจังหวัดยามากาตะ

เริ่มต้น
วันที่ 1
30 นาที
5 นาที

Uesugi Family Byosho Graves

5 นาที
15 นาที

Onogawa Onsen

ทานอาหารกลางวันที่ Onogawa Onsen Kamakura Village

20 นาที
5 นาที

ศาลเจ้าอุเอะสุกิ

พาวเวอร์สปอตที่บูชานักรบสุดแกร่งแห่งยุคเซ็นโกคุอย่างอุเอะสุกิ เคนชินเป็นเทพเจ้าประจำศาลเจ้า

ศาลเจ้าอุเอะสุกิสร้างทับซากป้อมปราการชั้นในของปราสาทโยะเนะซะวะเพื่อให้เป็นที่บูชาของอุเอะสุกิ เคนชินซึ่งเล่าขานกันว่าเป็นนักรบสุดแกร่งแห่งยุคเซ็นโกคุ ที่นี่เป็นพาวเวอร์สปอตที่เชื่อกันว่าผลบุญจากอุเอะสุกิ เคนชินจะช่วยเสริมโชคลาภ สมหวังตามคำอธิษฐาน ประสบความสำเร็จด้านการเรียนและทำให้กิจการรุ่งเรือง
สะพานไมซึรุบาชิตรงทางเดินเข้าวัดมีธงที่เขียนอักษรคำว่า “บิ” กับ “ริว” โบกสะบัดอยู่ อักษรคำว่า “บิ” มาจากการที่อุเอะสุกิ เคนชินรู้สึกศรัทธาท้าวเวสสุวรรณเป็นอย่างมาก อักษรคำว่า “ริว” หมายถึงพระอจลนาถ กล่าวกันว่าเป็นธงศึกที่ชูส่งสัญญาณบุกโจมตีตอนให้ทั้งกองทัพเข้าโจมตีพร้อมกัน และเล่ากันว่าสองเทพสุดแกร่งอย่างท้าวเวสสุวรรณกับพระอจลนาถจะมาช่วยอุเอะสุกิ เคนชินตอนสู้รบเพราะเขาเป็นผู้ศรัทธาศาสนาพุทธอย่างแรงกล้า
“เคโชเด็น ศาลเจ้าอุเอะสุกิ” ที่จัดแสดงทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญจำนวนมากโดยเน้นข้าวของเครื่องใช้ของตระกูลอุเอะสุกิก็เป็นจุดที่คนรักประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดมาชม ทั้งยังมีหมวกเกราะชื่อดังที่ดีไซน์มาจากตัวอักษรคำว่า “ไอ (รัก)” ของนายพลผู้ชำนาญทั้งยุทธการและวิทยาการนามว่านาโอเอะ คาเนสึงุด้วย
เป็นทั้งจุดชมซากุระชื่อดังที่ซากุระ 200 ต้นเลียบคูน้ำจะบานสะพรั่งเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายนของทุกปี “เทศกาลโยะเนะซะวะอุเอะสุกิ” จะจัดขึ้นวันที่ 29 เมษายน - 3 พฤษภาคมเป็นประจำทุกปี ในงานจะมี “พาเหรดอุเอะสุกิ” ซึ่งเป็นขบวนของคนสวมชุดเกราะสวยงามอลังการรวมกว่าหนึ่งพันและอีกหลายร้อยคน รวมถึง “ศึกคาวานากะจิมะ” ซึ่งจำลองการสู้รบครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคเซ็นโกคุให้ได้ชมกัน “เทศกาลโคมไฟหิมะอุเอะสุกิ” จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ เทียนในโคมไฟหิมะกว่า 300 โคมและอุโมงค์หิมะกว่า 1,000 อันจะถูกจุดสว่างไสวและสร้างให้เกิดบรรยากาศสวยงามน่ามหัศจรรย์
“ศาลเจ้ามัตสึงาซากิ” ที่บูชาอุเอะสุกิ โยซังเป็นเทพประจำศาลเจ้าซึ่งรู้จักกันมาจากคำกล่าวที่ว่า “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร หากลงมือทำก็สำเร็จ หากไม่ลงมือทำก็ไม่สำเร็จ” นั้นเป็นศาลเจ้าเสริมของศาลเจ้าอุเอะสุกิ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าอุเอะสุกิ ฉะนั้นอย่าลืมไปสักการะพร้อมกันให้ได้ค่ะ

Denkoku No Mori Yonezawa City Uesugi Museum

Uesugi Snow Lantern Festival

Attracted by the lights of the snow lanterns, you will recollect the good old vestiges of Tohoku in the winter

The Uesugi Snow Lantern Festival is held over two day on the second Saturday and Sunday of February every year. Matsugasaki Park, where Uesugi Shrine that enshrines Uesugi Kenshin is located, is the main venue of this festival. It is a festival distinctive of snowy Yonezawa held with gratitude for the ancestors who built the foundations of peace and a wish for the repose of their souls.
The entire area of the main venue of Matsugasaki Park is lined with approximately 300 snow lanterns and approximately 1,000 snow lamps. The flames light up the candles at night. The orange light that shimmers in the white landscape has a warmth that will make you forget the cold. It creates a fantastic atmosphere. If you wish to light a candle in the venue, head over to the handmade candle experience area. Why don't you make an original candle that is just yours and then light it up in a snow lamp.
After your look around, visit the tent village product exhibition. It will be packed with warm foods like Yonezawa skewered beef, Yonezawa ramen and bulbs of konjac jelly! Warm up your body by savoring the piping hot tasty foods of Yonezawa.

ค้างในอำเภอโยเนซาวะ 1 คืน

ในช่วงเทศกาลโคมไฟหิมะอุเอซุกิจะมีโคมไฟหิมะและถ้ำหิมะอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งของเมือง และจะจุดไฟสว่างไสวเมื่อตกกลางคืน
วันที่ 2
50 นาที
40 นาที
10 นาที

Zao Ropeway

20 นาที

ต้นไม้น้ำแข็งแห่งซะโอ

ไปหา “จุเฮียว” สโนว์มอนสเตอร์ที่เติบโตขึ้นมาอย่างนุ่มนิ่มกันเลย

ต้นไม้น้ำแข็งมีให้ชมเพียงไม่กี่แห่งและถือเป็นของหายากแม้แต่ในญี่ปุ่น เมื่อภูเขากลายเป็นสีขาวโพลนเพราะหิมะ ในระหว่างนั้นน้ำแข็งที่กลายสภาพเป็นหมอกก็จะถูกกระแสลมแรงพัดมาติดต้นไม้และทับถมจนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มต้นไม้หิมะขนาดมหึมานุ่มนิ่มเป็นเหมือนทั้งงานศิลปะของพระเจ้าและสัตว์ประหลาดที่น่ารักน่าชัง เราสามารถสนุกกับป่าหิมะได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น “ชมบนกระเช้าลอยฟ้า" "นั่งรถหิมะชม” “ชมระหว่างเล่นกีฬาฤดูหนาว” "ชมการประดับไฟ" เป็นต้น ฉะนั้นอย่าลืมมาสัมผัสด้วยตาและร่างกายของคุณเองให้ได้
วิธีง่ายๆ คือ “ซะโอโรปเวย์” โดยใช้ 2 สาย สายเชิงเขาและสายยอดเขาจากสถานีเชิงเขาซะโอไปจนถึงสถานียอดเขาจิโซยามะ แม้จะไม่เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดก็สามารถโดยสารได้ ตอนกลางคืนจะมีกระเช้าลอยฟ้าให้บริการเพื่อขึ้นไปชมต้นไม้น้ำแข็งประดับไฟ ทัศนียภาพที่รังสรรค์ขึ้นมาจากกลุ่มต้นไม้น้ำแข็งอันย้อมไปด้วยสีสันต่างๆ นั้นทำให้รู้สึกราวกับหลงเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง การเข้าร่วม “ทัวร์มหัศจรรย์ชมต้นไม้น้ำแข็ง” โดยนั่งรถหิมะแบบใหม่ “สายไนท์ครูซเซอร์” จากบริเวณใกล้ๆ กระเช้าลอยฟ้าซะโอก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
“ลานสกีซะโอออนเซ็น” มีเนินสกี “เส้นทางทุ่งต้นไม้น้ำแข็ง” ให้เล่นสกีกับสโนว์บอร์ดพลางชมต้นไม้น้ำแข็งได้อย่างสดชื่น ทั้งยังมีจัดอีเวนต์หายากอย่าง “ฟุยุโนะ HANABI” และ “งาน 1,000 คนไถลพร้อมถือคบไฟ” ที่จะให้ถือไฟ LED เอาไว้ในมือและลื่นไปตามเนินสกี แช่ซะโอออนเซ็นหลังเล่นกีฬาฤดูหนาวก็เป็นอีกความสนุกหนึ่ง
ฤดูต้นไม้น้ำแข็งจะมีช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคม ช่วงพีกจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงชมได้จะแตกต่างไปตามเงื่อนไขทางสภาพอากาศ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลใหม่ล่าสุดตอนจะจองบริการต่างๆ
20 นาที

Yamagata Sake Museum

Rime on trees fantasy corridor tour

พักที่ ซะโอออนเซ็น 1 คืน

ที่สุดแห่งความสนุกในฤดูหนาว มีทั้งสกี ต้นไม้น้ำแข็ง และออนเซ็น!

ออนเซ็นกำมะถัน มีคุณสมบัติเป็นกรดสูงและมีปริมาณน้ำมากมาย มีควันพวยพุ่งออกมาจากทุกหนแห่งในเมืองออนเซ็น มีเรียวกังและโรงแรมตั้งเรียงรายอยู่หลายสิบแห่ง ที่นี่มีฉายาว่า “น้ำพุร้อนเจ้าหญิง"" เพราะมีฤทธิ์ทำให้ผิวขาว และฉายา “น้ำพุร้อนเด็ก"" เพราะช่วยให้เด็กๆ เติบโตแข็งแรง โรงอาบน้ำสาธารณะจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับออนเซ็นชื่อดังเหล่านั้นได้แบบสบายๆ โรงอาบน้ำสาธารณะมี 3 แห่งได้แก่ ""คะมิยุ"" ""ชิโมะยุ"" “คะวะระยุ"" ทุกที่มีค่าเข้าเพียง 200 เยน และแต่ละที่สามารถเดินถึงกันได้ภายใน 3 นาทีจึงสะดวกต่อการตระเวนแช่น้ำ
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นที่นิยมของซะโอออนเซ็นยังไงก็ต้องเป็น “เทือกเขาซะโอ” ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟบนยอดเขา “ซะโอโนะโอะคะมะ” ได้รับการยกย่องเรื่องความงามอันน่าพิศวงของน้ำในทะเลสาบที่มีสีเขียว และเป็นทิวทัศน์สวยงามตระการตาที่ขึ้นชื่อของซะโอในฤดูร้อน
หากพูดถึงความน่าสนใจในฤดูหนาวล่ะก็จะต้องเป็น “ลานสกีซะโอออนเซ็น” ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารและ “ต้นไม้น้ำแข็งแห่งซะโอ” ที่เรียกกันว่าสโนว์มอนสเตอร์ ช่วงพีกของต้นไม้น้ำแข็งจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์และพบเห็นได้ที่บริเวณยอดของลานสกี ถึงจะไม่เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดก็ยังสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าไปชมได้ ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับต้นไม้น้ำแข็งด้วย กิจกรรมเล่นหิมะช่วงกลางวัน ชมต้นไม้น้ำแข็งประดับไฟตอนกลางคืน และการพักที่เรียวกังพร้อมออนเซ็นก็ถือเป็นแผนการเที่ยวแนะนำที่จะช่วยให้คุณเต็มอิ่มกับซะโอออนเซ็นได้มากที่สุด
วันที่ 3

เดินเล่นย่านซาโอออนเซ็นและตระเวนแช่น้ำพุร้อน

ในย่านซาโอออนเซ็นมีโรงอาบน้ำสาธารณะ 3 แห่ง บ่อแช่เท้า และบ่อสำหรับแช่แบบไม่ค้างคืน ฉะนั้นลองออกมาตระเวนแช่น้ำพุร้อนกันให้ได้ เราขอแนะนำให้ผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนของที่พักโดยไม่ค้างคืนไปซื้อ "โคเคชิตระเวนแช่น้ำพุร้อน" ซึ่งจำหน่ายอยู่ในศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวในอาคารผู้โดยสารรถบัสซาโอออนเซ็น เพื่อจะได้เพลิดเพลินกับการตระเวนแช่น้ำพุร้อนได้อย่างคุ้มค่า

เจงกิสข่านเป็นอาหารขึ้นชื่อของซาโอออนเซ็น

เชิญมาทานเจงกิสข่านที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของซาโอออนเซ็นเป็นมื้อกลางวันกัน เนื้อแกะที่ไม่เหม็นและนุ่ม ซอสสูตรลับที่ทำเองและข้าวของยามากาตะ มีความอร่อยที่ทำให้ถึงกับวางตะเกียบไม่ได้เลย
40 นาที
5 นาที
3 นาที

Beni no Kura

5 นาที
3 นาที

Bunshokan

See the luxurious decoration, a nationally designated important cultural property of brick that conveys the romance of Taisho era to the present!

The Yamagata Prefectural Folk Museum (nicknamed "Bunshokan") was built in 1916 (Taisho 5) and was used as a prefectural government building and a prefectural capitol until 1975 .
It was designated as an Important Cultural Property of Japan in 1984, and over 10 years from 1986 (Showa 61), restoration work was faithfully carried out based on the construction method at that time.it is now open to the public free of charge as yamagata prefecture folk hall (nicknamed "Bunshokan").
The former prefectural government building is a three-story brick building, and the outer wall is covered with stone paste, and it has a profound appearance. The clock tower, which shows its face to the 4 side as the symbol of Bunshokan, is the second oldest in operation in Japan after the Sapporo clock tower. Watchmakers manually manipulate the weight that moves the pendulum once every five days and have been used carefully. Thanks to that, we have continued to tick the time to the present.
The former Prefectural Capitol building is partly brick and has been used as a venue for concerts and other venues when it is not used by prefectural associations from the beginning, and is still used for various events nowadays.
The interior of the building is also decorated with luxurious decorations. The entrance hall where you enter the inside and jump into your eyes first is full of the atmosphere of Western architecture. The stair railings are also decorated, and the landing is a lovely stained glass with a laurel ring decoration motif. On the ceiling of the front of Government Office (now an auditorium) just up the stairs, plaster decorations that shine with the fine skills of craftsmen are restored. Yamagata prefecture's specialties such as safflower and cherries are hidden, so please check and look for them.
Other rooms also have gorgeous decorations such as parquet floors made from a combination of wood and carpets woven in Yamagata. If you have a time, you can enjoy it even more by guided by a guide volunteer (free of charge).
10 นาที
จุดหมายปลายทาง
to top